สูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไร? ให้ปลอดภัยชัวร์ๆ

เป็นความจริงที่ว่า แม้บุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นนวัตกรรมชั้นน้ำที่ถูกคิดค้นมาเพื่อช่วยนักสูบเลิกบุหรี่จริงและช่วยลดสารก่อมะเร็งจากการเผาไหม้ของบุหรี่จริงที่มีสารต่างกว่า 4,000 ชนิด แต่ก็ยังมีข้อถกเถียงไม่น้อยอยู่ในหลายประเทศเกี่ยว

กับเรื่องความปลอดภัยของบุหรี่ไฟฟ้าว่าสามารถช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้จริงหรือไม่ โดยมักมีการยกงานวิจัยจากทั้งสองด้านออกมาโต้เถียงกัน ซึ่งมีข้อสรุปที่แตกต่างกันออกไป

แต่ท้ายที่สุดแล้วเราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าสามารถช่วยให้สิงห์อมควันมากกว่า 99 % สามารถเลิกบุหรี่ได้อย่างเห็นผลชะงัด ภายใน 3 วัน 7 วัน แถมยังลดโอกาสเกิดโรคต่างๆ มากมาย และลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง

จากสารคาร์บอนมอนออกไซด์ และสารหนูได้ แต่ทั้งนี้เราเองก็สามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับร่างกายแม้จะสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้ด้วยตัวเอง กับวิธีง่ายๆ อย่างนี้

1. ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเกินกว่าที่สัญญาณเตือนเครื่องกำหนด : ในบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง KS KURVE และ Relx Infinity จะมีระบบสั่นเพื่อเตือนเมื่อเราสูบบุหรี่ไฟฟ้าในปริมาณเกินกว่าที่กำหนด ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าควรพอที่ตรงไหน ซึ่งหากเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าเกิดการเตือนขึ้นแล้วคุณควรพักการสูบอย่างน้อย 15 นาทีถึงครึ่งชั่วโมงเพราะถือว่าร่างกายได้รับนิโคตินในปริมาณที่มากกว่ากำหนดไปแล้ว จะช่วยให้คุณเซฟการรับนิโคตินเกินขนาดอันปัญหาหลักของการสูบบุหรี่จริงไปได้
   
2. สูบบุหรี่ไฟฟ้าในขณะที่น้ำยายังมีประสิทธิภาพ : น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานที่นาน แต่จะมีรสชาติ กลิ่น และคุณภาพดีที่สุดในช่วง 1 สัปดาห์แรก ซึ่งหากเลยจากนี้น้ำยาจะเสื่อมคุณภาพ อาจมีอาการเหนียวข้น และทำให้รั่วได้ง่าย ซึ่งเสี่ยงต่อการที่น้ำยาจะไหม้ และหากคุณยังฝืนสูบมันเข้าอาจทำให้ก่ออันตรายต่อสุขภาพได้นั่นเอง
   
3. ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าปะปนกับคนอื่น : ปัญหานี้แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานวิจัยหรือใดๆ ในช่วงนี้ที่มีการระบาดของโรค Covid-19 ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า และการเปลี่ยนถ่ายควันโดยตรง ดังนั้นคุณไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าปะปนกับเพื่อน หรือคนอื่นๆ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงเพิ่มความเซฟให้กับสุขภาพของคุณเอง