คอยล์ แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร!

‘คอยล์’ หัวใจสำคัญของบุหรี่ไฟฟ้ามีหน้าที่ทำความร้อน เมื่อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไหลมากระทบกับคอยล์ก็จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นไอระเหยแบบที่ให้เราสูบออกมาเป็นควันกันนั่นเอง โดยเจ้าคอยล์นี้เป็นสิ่งที่สายสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบ VAPE คุ้นเคยกันดี เพราะจะต้องคอย

ดูแลและทำความสะอาดให้ดีไม่ให้เกิดอาการที่เรียกว่า คอยล์ไหม้ เพราะจะทำให้ความกลิ่นของการสูบจะเปลี่ยนไป หรือมีคราบน้ำยาเหนียวๆ ติดอยู่ตามคอยล์ก็จะทำให้คอยล์เสียง่ายได้เช่นกัน ดังนั้นสาย VAPE ที่ต้องมีการเติมน้ำยา POD ปรับค่าไฟและความแรงของบุหรี่ไฟฟ้าอยู่บ่อยๆ จึงมักจะเกิดปัญหากับเจ้าคอยล์นี้ได้

โดย ‘คอยล์’ ของบุหรี่ไฟฟ้านั้น แบ่งออกได้เป็นหลายประเภท มีค่าแรงดันไฟฟ้า ค่าความต้านทานที่แตกต่างกันออกไป โดยยิ่งค่าความต้านทานต่ำเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำความร้อนได้เร็วมากเท่านั้น ทำควันได้แน่นและเยอะ แต่ก็แลกมาด้วยการสิ้นเปลืองน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้นนั่นเอง 

ซึ่งวัสดุที่ใช้มาทำคอยล์บุหรี่ไฟฟ้านั้นมักใช้ เซรามิค เป็นส่วนประกอบ แต่ก็จะมีการออกแบบลักษณะของคอยล์ที่แตกต่างกันออกไป โดยคอยล์ที่ใช้ขดลวดนั้นเหมาะสำหรับการสูแบบ MTL หรือ Mouth to lung สูบยาวเข้าไปถึงปอดได้เลย แต่ลักษณะของคอยล์ที่ได้รับความนิยมในตอนนี้คงหนีไม่พ้น MESH COIL หรือคอยล์แบบลวดตาข่าย ที่สามารถให้กลิ่นได้ชัดและควันแน่นขึ้นกว่าเดิมเหมาะกับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีค่าความต้านทานต่ำนั่นเอง

ซึ่งนอกจากสาย VAPE แล้ว สิงห์อมควันที่เปนสาย CLOSE POD SYSTEM เองก็ได้สัมผัสกับคอยล์อยู่บ่อยๆ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดจะต้องมีการบรรจุคอยล์ไว้ด้านใน แต่ข้อได้เปรียบของการเป็นสิงห์อมควันสาย CLOSE POD SYSTEM คือไม่ต้องวุ่นวายเปลี่ยนคอยล์

ทางผู้ผลิตจะเลือกชนิดที่เหมาะมาให้แล้ว โดยมีทั้งแบบคอยล์เซรามิคในบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นเรือธงทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Relx Infinity หรือ KS KURVE ส่วยคอยล์แบบสำลีก็จะมีบรรจุไว้อย่างใน KS XENSE และ KS QUIK ด้วยเช่นกัน